วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2555


เคล็ดลับการดูแลรักษาแบตเตอรี่ เพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้มากขึ้น
 ปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะไปไหนมาไหน ในมหาวิทยาลัย สำนักงาน ในการทำงานส่วนใหญ่จะเลือกใช้โน้ตบุ๊คมากกว่าเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่เทอะทะ เพราะโน้ตบุ๊ตสามารถทำงานได้คล่องตัวมากกว่า พกพาสะดวก ประสิทธิภาพในปัจจุบันนี้ก็ไม่หน้าหน้าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเสียด้วยซ้ำ แต่การทำงานของโน้ตบุ๊คนั้นจะหมดประสิทธิภาพก็เมื่อแบตหมด แย่เสียนี่กระไร ทำไมหมดไวอะไรอย่างนี้ใช้ยังไม่ถึงชัวโมงเลยด้วยซ้ำ เพิ่งซื้อแบตมาเปลี่ยนใหม่ไม่ถึงเดือน เสื่อมอีกแล้ว 
ดังนั้น เราควรรู้วิธีการดูแลรักษาแบตเตอรี่โน้ตบุ๊คเพื่อให้สามารถใช้งานได้ยาวได้ ไม่เสื่อมสภาพง่าย
อย่าเก็บแบตเตอรี่ไว้ในอุณหภูมิสูง
โน้ตบุ๊คมีขนาดเล็กที่ท้ายเครื่องสำหรับถ่ายเทความร้อน แต่หากแบตเตอรี่อยู่ใกล้กับจุดนี้ก็อาจเป็นการผลักความร้อนบางส่วนไปที่แบตเตอรี่โดยตรง ซึ่งจะมีผลทำให้อายุการใช้งานลดลง โดยแบตเตอรี่ Li-ion ที่ถูกชาร์ตไว้ที่ 40% นั้นเมื่อถูกแช่เย็นไว้จะเก็บรักษาการชาร์จได้นานถึง 10 ปี ถ้าถูกเสียบไว้กับเครื่องโน้ตบุ๊คจะมีอายุการใช้งานเพียง 12-18 เดือน เท่านั้น ดังนั้นถึงแม้หลายคนชอบใส่แบตเตอรี่ไว้กับเครื่องโน้ตบุ๊คตลอดเพื่อช่วยจ่ายไฟฉุกเฉินในกรณีไฟที่เสียบไว้ดับ ควรหันมาถอดแบตเตอรี่หากโน้ตบุ๊คที่เราใช้ส่วนใหญ่จะเสียบไว้บนโต๊ะทำงานเสียส่วนใหญ่
 
เสียบสายไฟทำงานกับโต๊ะตลอด ก็อาจถอดแบตออกบ้าง
 
อุณหภูมิของเครื่องโน้ตบุ๊คนั้นขณะที่กำลังใช้งานอยู่อาจเพิ่มสูงถึง 45 องศา ซึ่งจะทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ลดลงครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว หากเทียบกับการเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 20 องศา การปล่อยโน้ตบุ๊คไว้ในรถยนต์ที่ตากแดดไว้ จะส่งผลหใอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ลดลงอีกด้วย
 
 
อย่าชาร์จไปเต็ม และใช้จนหมดทุกครั้ง
- การใช้งานแบตเตอรี่จนหมดจะส่งผลให้วงจรที่คอยตรวจสอบระดับไฟในแบตเตอรี่หยุดทำงาน
- ไม่ควรชาร์จแบตเตอรี่ Li-ion ให้เต็ม 100% อยู่บ่อยๆ เพราะจะทำให้แบตเตอรี่ทำงานหนัก
- การใช้งานแบตเตอรี่ถูกชาร์จและใช้งานสลับกันไป กลับส่งผลดีมากกว่าถึงแม้ไม่ได้ใช้งานจนหมดก็ตาม
- ควรชาร์ตแบตเตอรี่เมื่อเหลืออย่างน้อย 10-20%

ไม่มีความคิดเห็น: